หาคู่ ต้องอ่าน อ่านฟรี หนังสือสอนหาคู่ ออกเดท ของบริษัทจัดหาคู่ กฎเหล็ก: เคล็ดลับ มัดใจชาย ยุค Social Media สาวโสดหาคู่ต้องอ่าน

หาคู่ ต้องอ่าน อ่านฟรี หนังสือสอนหาคู่ ออกเดท ของบริษัทจัดหาคู่ กฎเหล็ก: เคล็ดลับ มัดใจชาย ยุค Social Media สาวโสดหาคู่ต้องอ่าน

บทที่ 4 ทำตามใจตัวเองไปเถอะ จนกว่าคุณเองจะพร้อมปฏิบัติตามกฎเหล็ก
  • คุณไม่ว่าอะไรใช่ไหม หากชายที่คุณมีเซ็กซ์ด้วยไม่เคยส่งข้อความมาหาคุณก่อนเลย
  • คุณรู้สึกสนุกและท้าทายเวลาที่ผู้ชายโทรมาชวนออกเดทในนาทีสุดท้าย และไม่ได้คิดว่านั่นแปลว่าคุณคือตัวสำรองของเขา
  • คุณเคยขอให้ผู้ชายอยู่ต่อ และเมื่อเขาปฏิเสธ คุณก็แค่ยักไหล่อย่างไม่แคร์หรือเปล่า
  • คุณยังคงออกเดทกับผู้ชายคนเดิมที่เคยพูดว่าเขาไม่ใช่คนประเภทที่ “มองหาความสัมพันธ์แบบจริงจัง” แถมยังคบผู้หญิงอื่นไปพร้อมๆ กับคุณอยู่หรือเปล่า
  • ทุกครั้งที่แม่หรือเพื่อนของคุณแนะนำหนังสือกฎเหล็ก ให้คุณอ่าน คุณมักจะพูดว่า “ฉันเรียนจบ MBA นะจ๊ะ ไม่ต้องมีใครมาบอกให้ฉันทำอย่างนั้นอย่างนี้หรอก”
หากคำตอบของคุณคือใช่ในข้อใดข้อหนึ่งด้านบนนี้ล่ะก็ จงทำอย่างที่คุณทำอยู่ต่อไปเถอะ หนังสือเล่มนี้อาจจะไม่เหมาะ กับคุณ--อย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ในตอนนี้ ที่เราจะพูดก็คือหากตอนนี้คุณยังสนุกกับการแหกกฏอยู่ ก็ทำต่อไป คอยสะกดรอยตามผู้ชาย โพสหน้าวอลล์ Facebook ของเขาทุกวัน ขึ้นเครื่องบินไปหาเขา ส่งข้อความไปตอนตีสองเพื่อบอกเขาว่าคุณคลั่งเขาขนาดไหน สนุกสนานกับชีวิตของคุณให้เต็มที่ แสดงออกให้สุดเหวี่ยง แก่นเซี้ยวเปรี้ยวซ่าให้สุด!

ยอมรับเถอะว่าสาวๆในวัยมหาวิทยาลัยไม่ต้องการกฏเกณฑ์ใดๆทั้งนั้นมาบงการ ยิ่งเฉพาะในเรื่องความสัมพันธ์ด้วยแล้ว พวกเธออยาก ทำตามใจตัวเอง พวกเธอไม่ได้คิดถึงแหวน ถึงพิธีแต่งงาน ถึงเรื่องการมีลูก แล้วทำไมต้องยอมแลกความสนุกชั่วครั้งชั่วคราว กับอะไรที่จริงจังและยืนยาวล่ะ พวกเธอยังไม่ได้คิดถึงอนาคตระยะยาวด้วยซ้ำ ชีวิตของพวกเธอช่วงนี้คิดถึงแต่เรื่องเรียน ปาร์ตี้ และลุ้นให้เรียนจบให้ได้ก็เท่านั้น! พวกเธออยากทดลองอะไรใหม่ๆ ในเรื่องเซ็กซ์ เหล้าหรืออาจจะยาด้วยในบางครั้ง พวกเธอไม่ได้ ต้องการ อะไรที่ซีเรียสจริงจังในตอนนี้ เธอก็แค่อยากจะหว่านเสน่ห์กับผู้ชายที่ถูกใจตั้งแต่แรก ไม่ใช่มานั่งรอให้ผู้ชายสักคนเข้ามา เปิดบทสนทนาด้วย และผู้ชายที่พวกเธอสนใจในตอนนี้ก็ไม่ใช่ผู้ชายประเภทที่จะเป็นสามีที่ดีพร้อมหรอก กลับกัน พวกเธอเลือก ที่จะเชื่อฟังฮอร์โมนที่พุ่งพล่านเมื่อได้รับโทรศัพท์ผู้ชายชวนออกไปมีความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน พวกเธอต้องการทำตามอารมณ์ ตัวเองมากกว่าจะมานั่งทำตัวเป็นกุลสตรี จะมามัวแต่ทำตามกฎเหล็กน่าเบื่อทำไมในเมื่อคุณยังอายุน้อย โลกทั้งใบยังรอให้คุณค้นหา ทำไมไม่ปลดปล่อยตัวเองให้สนุกเต็มที่ก่อนล่ะ 



เราเข้าใจทั้งหมดที่ว่ามา! กฎเหล็กไม่ได้มีไว้สำหรับผู้หญิงที่ต้องการสนุกกับชีวิต แต่มีไว้สำหรับผู้หญิงที่เคยเจ็บปวดและสิ้นหวังกับความสัมพันธ์ที่ล้มเหลวมาแล้ว มีไว้สำหรับผู้หญิงที่โทรหาเพื่อนสนิท หันไปพึ่งจิตแพทย์หรือนักบำบัด หรือแม้กระทั่งหันมาพึ่งเราเมื่อความสัมพันธ์จบลง พวกเธอเหล่านี้ไม่ต้องการความสัมพันธ์ชั่วครั้งชั่วคราวอีกต่อไป แต่พวกเธอต้องการความรักที่มั่นคง จริงจัง ความสัมพันธ์ที่จะไม่ทำร้ายพวกเธออีก หากคุณยังไม่ได้รู้สึกแบบนี้ก็สนุกต่อไปเถอะ: ส่งข้อความหาผู้ชายตอนกลางคืน ไม่ก็จับเครื่องบินไปหาผู้ชายที่คุณเพิ่งแอดเป็นเพื่อนใน Facebook หรือคนที่คุณเห็นว่าโพรไฟล์ของเขาน่าสนใจ 

เรามักจะได้รับอีเมลล์จากผู้หญิงที่มองว่าเพื่อนหรือพี่น้องของเธอควรจะใช้กฎเหล็กในความสัมพันธ์ ในอีเมลล์มักจะมีเนื้อหาว่า “เธอยอมให้อภัยผู้ชายที่นอกใจเธอ ฉันว่าเธอต้องใช้กฎเหล็กจริงๆนะ!” หรือไม่ก็ “เธอสามสิบแล้วนะ แต่ยังเดทผู้ชายคนเดิมที่คบมาหกปีแต่ไม่ยอมขอแต่งงานอยู่เลย เธอควรจะรีบทำอะไรสักอย่างได้แล้ว” หรือ “เพื่อนที่ทำงานของฉันคบอยู่กับผู้ชายที่แต่งงานมีลูกมีเมียแล้ว และไม่มีทีท่าว่าจะหย่าในเร็วๆนี้ด้วย ฉันไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว เธอน่าจะได้อ่านกฎเหล็กนะ” บางครั้งเราได้รับอีเมลล์จากคุณแม่ที่กำลังกังวลเกี่ยวกับลูกสาว เขียนมาว่า “ลูกสาวฉันมักจะเป็นฝ่ายไล่ล่าวิ่งตามผู้ชายและจบลงที่การเสียใจครั้งแล้วครั้งเล่า ฉันกลัวว่าคนอื่นจะมองเธอในภาพลบ คุณช่วยเธอได้ไหม” เราเคยได้รับอีเมลล์จากสาวๆที่ชื่นชอบการอ่านข่าวบันเทิงก๊อซสิปที่บอกว่า “ไม่อยากเชื่อเลยว่าดาราคนโปรดของฉันจะย้ายเข้าไปอยู่กับพระเอกคนนั้นเร็วอย่างนี้ ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะทิ้งเธอ แหม เธอน่าจะได้อ่านกฎเหล็ก บ้างนะ!” เชื่อไหมว่ากลุ่มแฟนเพจกฎเหล็กใน Facebook ยังพูดกันเลยว่า หนังสือกฎเหล็ก ควรจะเป็นคู่มือติดตัวสาวๆทุกคนตั้งแต่แรกเกิด หรือต้องมีทุกคนในช่วงวัยรุ่น ไม่ก็บรรจุในตำราเรียนตอนมัธยมเลยด้วยซ้ำ!
เราเข้าใจดีว่ามันน่าหงุดหงิดเพียงใดที่ต้องทนเห็นเพื่อนๆ สมาชิกในครอบครัว หรือแม้แต่ดาราที่เรารักทำเรื่องผิดพลาดในความสัมพันธ์ของพวกเธอ ทั้งๆที่พวกเธอน่าจะทำได้ดีกว่านี้ แต่สิ่งที่เราจะบอกพวกเขา ก็เหมือนที่เราจะบอกพวกคุณก็คือ กฎเหล็ก มีไว้สำหรับผู้หญิงที่อยากจะใช้มัน ไม่ใช่ผู้หญิงที่จำเป็นต้องใช้มัน การทำตัวให้มีคุณค่า และเคารพตัวเองทุกครั้งที่เริ่มออกเดทไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่ายๆ และมักไม่มีใครทำจนกว่าจะเจอความสัมพันธ์แย่ๆเสียก่อน 

หากผู้หญิงสักคนซื้อหนังสือกฎเหล็กไปอ่าน หรือโทรมานัดเราเพื่อขอคำปรึกษา มันไม่ใช่เพราะว่าเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันนั้นแล้วนึกได้ว่า “ฉันว่าฉันเป็นหญิงกฎเหล็กดีกว่าวันนี้” และไม่ใช่เพราะว่าพวกเธอว่างมากหรือไม่มีอะไรทำ แต่เป็นเพราะพวกเธอเพิ่งเจ็บปวดกับความสัมพันธ์ที่พังทลายลงไป หรือไม่ก็เหน็ดเหนื่อยกับการหลงรักผู้ชายผิดคน และต้องการเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง พวกเธอต้องเผชิญกับความเจ็บปวด ทุกข์ทรมาน และอับอายมานานหลายปี เมื่อความรักครั้งนี้จบลงนั่นคือฟางเส้นสุดท้าย แฟนของเธอนอกใจรอบที่สิบ หรือผู้ชายที่เธอเดทด้วยมาห้าปีไม่เคยพูดเรื่องแต่งงาน หรือผู้ชายที่เธอคบด้วยไม่หย่ากับภรรยาสักที และพวกเธอก็ตัดสินใจจะเลิกทน! พวกเธอเหนื่อยหน่ายกับการรอ การสะกดรอยตาม และการฝันเฟื่องถึงความสัมพันธ์จอมปลอม พวกเธอเบื่อกับความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนที่ไม่มีความมั่นคงทางจิตใจ เบื่อที่จะต้องไปงานแต่งงานลูกพี่ลูกน้องแบบฉายเดี่ยว เบื่อที่จะต้องเป็นฝ่ายถูกทิ้ง

มีบางกรณี สาวๆติดต่อมาหาเราเพราะเธอเจอกับชายในฝัน และไม่อยากจะทำพลาดอีก หลังจากที่ได้แหกกฎเหล็กและเสียเวลากับผู้ชายแย่ๆมาหลายปี ในที่สุดเธอก็เจอหนุ่มน่ารักคนนี้ และหลังจากจูบแรกของเธอและเขา วินาทีต้องมนต์ก็เกิดขึ้น! เธอตระหนักได้ในตอนนั้นว่าเธอต้องการความสัมพันธ์ที่มั่นคง จริงจัง ไม่ใช่แค่การส่งข้อความจีบกันและเซ็กซ์ที่ไม่มีความหมาย เธอไม่อยากทำพลาดด้วยการแสดงออกโจ่งแจ้งเกินไป (“คืนนี้คุณว่างไหมคะ ฉันบังเอิญมีตั๋วคอนเสิร์ตสองใบพอดี”) หรือเรียกร้องมากเกินไป (“ฉันจะได้เจอคุณอีกเมื่อไหร่คะ”) เธอคิดว่า “ไม่ได้การละ ฉันจะทำพังไม่ได้ ต้องมีแผน!” และนั่นแหละคือตอนที่ผู้หญิงอย่างเราจะหยุดสนุกกับการไล่ล่าผู้ชาย และพร้อมสำหรับกฎเหล็ก เสียที

ตามธรรมชาติแล้วเราเข้าใจว่าหากเด็กสาววัยรุ่นอ่านหนังสือเล่มนี้พวกเธออาจจะไม่เข้าใจทั้งหมด เพราะพวกเธออยู่ในสังคมที่เพื่อนๆมีเบอร์หนุ่มๆทั้งชมรมในมือถือและพร้อมจะเมาหรือนัวเนียกันตลอดเวลา--โดยไม่ต้องออกเดทให้เป็นเรื่องเป็นราวด้วยซ้ำ! พวกเธอยังอยู่ในช่วงเวลาค้นหาตัวเอง ลองไปบอกนักศึกษาปีสองดูสิว่า “ดื่มแค่แก้วเดียวนะ” และ “รอให้เขาจริงจังกับเธอก่อนค่อยมีเซ็กซ์” หรือ “อย่าไปโพสหน้าวอลล์เขาเลย” ดูซิ ว่าเธอจะเชื่อคุณไหม เราเคยได้รับเชิญไปพูดที่มหาวิทยาลัย ที่นั่น เด็กๆบอกเราว่าการทำตามกฎเหล็กเป็นเรื่องที่ยากมาก โดย
เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณอยู่ในสังคมที่เพื่อนสาวทุกคนส่งข้อความหาผู้ชายก่อนและออกไปค้างคืนกับผู้ชายที่เพิ่งรู้จักตลอดเวลา แต่ความจริงก็คือ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์ไหนหรือสังคมรอบด้านอย่างไร คุณก็สามารถเป็นหญิงกฎเหล็กได้เสมอ  คุณอาจจะไม่ได้อยากแต่งงานตอนอายุสิบเก้า แต่คุณอาจจะอยากอยู่ในความสัมพันธ์ดีๆ กับผู้ชายที่รักคุณหัวปักหัวปำ กฎเหล็กนี่แหละจะทำให้คุณถือไพ่เหนือกว่า คุณจะควบคุมความสัมพันธ์ได้ คุณจะไม่ต้องเจ็บปวด แล้วมันไม่ดีตรงไหนกัน
กลุ่มนักศึกษาไม่ใช่กลุ่มเดียวที่อยากจะทำตัวไปตามอำเภอใจในเรื่องการออกเดท เราเคยคุยกับผู้หญิงวัยยี่สิบกลางๆถึงปลายๆที่ต้องการค้นพบตัวเองและอยากทำตามหัวใจ--ไม่อยากทำตามกฏ และไม่ต้องการให้ใครมาบอกว่าควรทำอย่างนี้ ไม่ควรทำอย่างนั้น พวกเธอรู้สึกว่ากฎเหล็กน่าเบื่อ และไม่อยากทำตามในตอนนี้--แต่อาจจะทำตามในอีกห้าปีข้างหน้า เราเข้าใจดี เรามีลูกค้าวัยสามสิบกว่า สี่สิบกว่า ห้าสิบกว่า ที่เพิ่งก้าวขาออกมาจากชีวิตแต่งงานแย่ๆ พวกเธอไม่ได้ออกเดทกับใครมาเป็นสิบๆปีและโทรมาถามเราว่ากฎเหล็กสำหรับสถานการณ์นี้ๆๆๆเป็นอย่างไร แต่พวกเธอก็พบว่าตัวเองยังไม่พร้อมสำหรับกฎเหล็ก พวกเธออยากกลับมาสนุกอีกครั้ง อยากใช้เวลาสามชั่วโมงส่งข้อความจีบกัน อยากออกเดทแรกแปดชั่วโมง และอยากจะมีความสัมพันธ์แบบข้ามคืนสักสองสามครั้ง 

เรามีลูกค้าคนหนึ่งที่ตั้งปณิธานไว้ว่าจะ “หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความสนุกให้ทั่ว” หลังจากที่หย่าขาดจากสามีบ้างานที่ไม่เคยแสดงความต้องการในเรื่องเซ็กซ์เลย หลังจากส่งอีเมลล์คุยกับผู้ชายที่เธอพบในเว็บไซต์หาคู่ เธอก็ตัดสินใจส่งข้อความหาเขาตอนตีสอง และบอกตัวเองว่าการขับรถเป็นชั่วโมงๆไปหาเขาที่บ้านในช่วงสุดสัปดาห์เป็นการ “ผจญภัยครั้งใหญ่” พวกเขามีเซ็กซ์กันและเธอก็ขลุกอยู่กับเขาถึงสามวันหลังจากนั้น เธอบอกเราว่าเธอไม่สนใจหากเขาจะไม่ติดต่อมาอีกเลย เพราะเธอต้องการแค่ความสนุกเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่หายไป เขาติดต่อมาหาเธอเป็นครั้งคราวในช่วงเวลาสามเดือน—แต่เป็นเฉพาะเมื่อเขาต้องการให้เธอขับรถไปหาเขาที่บ้าน พวกเขาไม่เคยทานมื้อค่ำแบบโรแมนติกหรือส่งอีเมลล์หวานๆให้กันด้วยซ้ำ เธอแทบทรุดเมื่อเขาส่งข้อความมาบอกเลิก และตระหนักได้ในตอนนั้นว่าแม้เธอจะพร่ำบอกตัวเองว่า “ไม่เป็นไรหรอก มันก็แค่เซ็กซ์เท่านั้นเอง” แต่ความจริงมันไม่ใช่:ผู้หญิงไม่ได้ต้องการแค่นั้น! ตอนนี้เธอจึงปฏิบัติตามกฎเหล็ก อย่างแน่วแน่ และปลื้มมันมาก!
เรามีลูกค้าประเภทมั่นใจในตัวเองที่มักจะบอกว่า กฎเหล็กเป็นเรื่องไร้สาระ พวกเธอต้องการจะ “เขียนกฎเหล็กของตัวเอง” และ “ปล่อยให้สัญชาตญาณนำไป” ในการอีเมลล์หรือส่งข้อความไปหาผู้ชายหรือนอนกับเขาในเดทแรก เราบอกพวกเขาว่าให้ทำสิ่งที่ตัวเองเลือก แต่หากมีอะไรผิดพลาด เจ็บปวด หรือได้เจอผู้ชายที่อยากจะลงเอยด้วยจริงๆ ให้โทรมาหาเรา และพวกเธอก็ทำตามนั้น! บางครั้งพวกเธอเผลอทำตามกฎเหล็ก โดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะเธอไม่ได้สนใจผู้ชายคนนั้นเท่าไหร่นัก วันหนึ่งเธอโทรกลับมาบอกเราอย่างผู้ชนะว่า “ฉันไม่ได้ทำตามกฎเหล็กเลยสักข้อ แต่ตอนนี้เราหมั้นกันเแล้ว”  เราอธิบายเหตุการณ์อย่างนี้ว่า แม้มันจะเกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่ใช่กฎเหล็ก ก็เหมือนกับการลดน้ำหนักไปได้ห้ากิโลโดยไม่ได้พยายาม เพียงเพราะว่าอาหารเป็นพิษนั่นแหละ

ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ จะเป็นนักศึกษาปีหนึ่งหรือสาววัยสี่สิบห้าที่เพิ่งผ่านการหย่าร้าง กฎเหล็กเหมาะสำหรับคุณ หากคุณเบื่อกับการทำผิดพลาดในความสัมพันธ์หรือถูกทิ้ง กฎเหล็ก คือหนังสือสำหรับคุณ หากคุณอยากจะมีความสัมพันธ์ที่มั่นคงและราบรื่นกับแฟนที่อาจจะกลายเป็นว่าที่สามีในอนาคต หากคุณเบื่อกับเซ็กซ์ชั่วคราวหรือการส่งข้อความที่ไม่ได้รับการตอบกลับ อาจจะเป็นเพราะ “การทำตามใจตัวเอง” ใช้ไม่ได้ผลกับคุณอีกต่อไป ตอนนั้นแหล่ะ คุณจะพร้อมสำหรับกฎเหล็ก! แต่หากยังไม่ใช่ตอนนี้ ก็สนุกให้เต็มที่เลย หากคุณต้องการอย่างนั้นจริงๆ แล้วล่ะก็

กฎเหล็กข้อที่ 6 รออย่างน้อยสี่ชั่วโมงก่อนจะตอบข้อความแรกที่ชายหนุ่มส่งมาให้ และรออย่างน้อย 30 นาทีในการตอบข้อความครั้งต่อไป

ตอนนี้คุณอาจจะสงสัยว่าควรจะรอนานเท่าไหร่ถึงจะส่งข้อความตอบกลับหนุ่มคนนั้นได้ มีลูกค้าหลายรายส่งข้อความมาหาเราอย่างเร่งด่วน “ผู้ชายที่ฉันชอบเพิ่งส่งข้อความมา ฉันจะตอบเขาตอนนี้ได้เลยไหม แล้วจะตอบยังไงดี ตอบกลับฉันด่วนนะคะ”
            เรารู้กันดีอยู่แล้วว่านี่ไม่ใช่คำถามที่ต้องการคำตอบอย่างเร่งด่วน อันที่จริงเรามีเคสด่วนกว่านี้อีกหลายเคส เช่น ผู้หญิงที่มีผู้หญิงอีกคนส่งข้อความมาหาแฟนตัวเอง หรือ ผู้หญิงที่แฟนตัวเองหายไปหลังจากทะเลาะกันอย่างหนักหน่วง เคสเหล่านี้ต่างหากที่ด่วนที่เราจะช่วยก่อนเคสอื่นๆ เราเข้าใจว่าการได้รับข้อความแรกจากชายในฝันน่ะสำคัญ เป็นเรื่องความเป็นความตายได้เลยของหญิงสักคน เธอจะร้อนใจอยากตอบข้อความเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราอยู่ในสังคมที่ทุกอย่างเร็วไปหมด และการส่งข้อความกลับชายในฝันก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เกินจะห้ามใจ
            หญิงกฎเหล็กรู้ดีว่าไม่ควรโทรหาผู้ชายก่อน และไม่ควรรีบร้อนโทรกลับไปหาเขา กฎเหล็กข้อนี้สามารถนำมาปรับใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย แต่เทคโนโลยีในช่วงสิบห้าปีนี้เปลี่ยนไปเยอะมาก และการปฏิบัติกับการส่งแมสเสจก็ไม่สามารถทำเหมือนกันกับการรับโทรศัพท์ได้ หลังจากปรึกษาหารือกับลูกสาวของเราและที่ปรึกษาหลายคน เราก็ตระหนักได้ว่ามันมีอะไรที่แตกต่างกันอยู่มาก ผู้ชายจะโทรกลับมาหาคุณอีกรอบหากคุณยังไม่โทรกลับไปหาเขา แต่ข้อความจะเป็นเหมือนโทรศัพท์ที่โทรหาคุณอยู่ตลอดเวลา มันไม่รบกวนเวลาใดๆ มันแค่นอนสงบนิ่งอยู่ในกล่องข้อความของคุณ หากคุณหายเงียบไปเลย เขาก็จะคิดไปว่าคุณปฏิเสธเขา—ความหมายเดียวกับที่คุณจะพูดออกมาว่า “ไม่สนใจค่ะ ขอบคุณ” หรือไม่ เขาก็จะคิดว่าคุณกำลังเล่นเกมอะไรบางอย่าง
            อย่างไรก็ดี หากคุณไม่ตอบกลับแมสเสจของชายหนุ่มเลย หรือรอนานจนเกินไปกว่าจะตอบกลับ ในโลกปัจจุบันที่มนุษย์ไม่สามารถอยู่ห่างจากโทรศัพท์ได้นั้นอาจทำให้ผู้ชายคิดไปได้ว่า เธออ่านหนังสือกฎเหล็กหรือเปล่า เธอไม่สนใจเราจริงๆหรือ หรือเธอแค่แกล้งทำเป็นไม่สนใจกันแน่ เราไม่ต้องการให้ปัญหาประเภทนี้เกิดขึ้น
            ก่อนหนังสือเล่มแรกของเราจะได้รับการตีพิมพ์ การที่ผู้หญิงจะไม่โทรกลับหาผู้ชาย หรือทิ้งไว้หลายวันก่อนจะโทรกลับ ถือเป็นเรื่องปกติมาก แต่หลังจากหนังสือกฎเหล็กปรากฏสู่สายตาชาวโลก—และเริ่มได้รับการพูดถึงทั้งในซิทคอม ในรายการทอล์คโชว์ ในแมกกาซีนและหนังสือพิมพ์—ผู้ชายก็เริ่มสงสัยในพฤติกรรมของสาวๆมากขึ้น ว่าการที่คุณไม่ติดต่อเขากลับเป็นเพราะคุณกำลังเล่นเกมอะไรอยู่หรือเปล่า ดังนั้นเราขอบอกว่าอย่ารอนานจนเกินไปที่จะตอบข้อความ หรือไม่ตอบข้อความของเขาเลย อย่าเล่นตัวมากจนเกินไป อย่าให้ผู้ชายรู้สึกว่าคุณหยาบคายหรือเรื่องมากก่อนเดทแรก เราได้สัมภาษณ์ผู้ชายกลุ่มหนึ่งที่บอกว่า แม้การที่ผู้หญิงคนนั้นไม่ตอบกลับข้อความของเขา เขาก็ยังจะขอเธอออกเดทอยู่ดี แต่เขาจะเริ่มรู้สึกว่าเธอไม่สนใจเขา หรือเธออาจจะคบใครอยู่แล้วหากเธอไม่ตอบกลับข้อความของเขา อย่างที่โอปราพูดในรายการทีวีที่โด่งดังของเธอว่า “ผู้ชายชอบหญิง กฎเหล็ก แต่เขาไม่อยากให้เธอเป็นอย่างนั้นเพราะทำตามหนังสือ” เราไม่ได้ตั้งใจเขียนหนังสือเพื่อสอนให้ผู้หญิงประพฤติไม่สุภาพกับผู้ชาย!
            เวลาที่เหมาะสมที่ควรจะตอบกลับข้อความของผู้ชาย ควรจะอยู่ระหว่าง 4 ถึง 24 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับช่วงอายุของคุณ 4 ชั่วโมงเหมาะสำหรับกลุ่มสาวๆที่อายุน้อยหน่อย เช่น สาวที่ยังอยู่ในวัยเรียนหรือวัยเริ่มทำงาน เพราะสาวๆกลุ่มนี้โตขึ้นมาพร้อมกับโทรศัพท์มือถือและเฟสบุ๊ค ยิ่งคุณอายุมากขึ้นเท่าไหร่ คุณยิ่งต้องรอนานมากขึ้นเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น หากคุณอายุสามสิบ ก็ควรจะรอสัก 12 ชั่วโมง และสาววัยสี่สิบหรือมากกว่านั้นก็ควรจะรออย่างน้อยหนึ่งวันถึงตอบกลับ (ลองดูตารางเวลาสำหรับตอบกลับข้อความหน้า 77-78)
            แต่มันยังมีปัจจัยอื่นมาพิจารณาเพิ่มอีกคือ หากผู้ชายส่งข้อความหาคุณครั้งแรก ตอน 9 หรือ 10 โมงเช้า คุณก็ไม่ควรตอบกลับไปใน 4 ชั่วโมงเป๊ะ เพราะตอนนั้นจะตรงกับเวลาที่คุณควรจะเรียนหรือทำงานอยู่ และตามความน่าจะเป็นแล้วคุณไม่ควรจะเช็คโทรศัพท์ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง คุณควรจะรอจนกว่าจะเลิกเรียนหรือเลิกงานในวันนั้นแล้วค่อยตอบกลับไป หากตารางเวลาที่เราให้ มันไปตกอยู่ในช่วงกลางวันหรือช่วงเวลาที่คุณควรจะทำงานอยู่ ก็รอต่อไปอีกหน่อย มันมีคำว่าอย่างน้อยอยู่ข้างหน้าซึ่งนั่นหมายความว่าคุณสามารถรอนานกว่านั้นได้ คุณไม่ได้ว่างขนาดนั้นนะ—จำไว้ คุณไม่ควรทำให้เขาคิดว่าคุณนั่งมองหน้าจอโทรศัพท์ทั้งวัน
            หากผู้ชายคนนั้นส่งข้อความหาคุณครั้งแรกในช่วงบ่าย อาจจะประมาณ 3 หรือ 4 โมงเย็น คุณก็ควรส่งกลับไปช่วงหลังเลิกงานตอนที่คุณกำลังนั่งดื่มหรือทานอาหารค่ำกับเพื่อนๆ หรือคุณอาจจะรอจนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้นแล้วค่อยส่งไปก็ได้—ก็แหม คุณอาจจะไปดูหนังรอบดึกมาก็เลยไม่ว่างส่งกลับไปในคืนนั้นก็ได้นี่ การที่คุณทำอย่างนี้จะทำให้เขาคิดว่าคุณมีชีวิตส่วนตัว และมีอะไรทำมากมายเกินกว่าจะมานั่งรอโทรศัพท์จากเขา
            หากผู้ชายส่งข้อความมาหาคุณตอนสองทุ่ม และสี่ชั่วโมงหลังจากนั้นมันตรงกับเวลาเที่ยงคืนพอดี ไม่ต้องตอบกลับไปเลย ให้รอจนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้นค่อยส่งข้อความกลับหาเขาระหว่างทางไปเรียนหรือไปทำงานแทน
            สูตรตารางเวลาส่งข้อความกลับนี้ไม่สามารถนำมาใช้ได้ในช่วงสุดสัปดาห์ หรือตั้งแต่ 6 โมงเย็นวันศุกร์ไปถึง 6 โมงเย็น วันอาทิตย์ เราจะเรียกช่วงเวลานี้ว่าช่วงเวลาปลอดการส่งข้อความ เหมือนเวลาคุณอยู่บนเครื่องบินและต้องปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดนั่นแหละ เชื่อเราเถอะ สาวๆกฎเหล็ก สุดสัปดาห์ควรเป็นช่วงปลอดการส่งข้อความ คุณไม่ควรจะว่างในช่วงนั้น คุณไม่สามารถติดต่อได้ คุณมีอะไรต้องทำมากมาย คุณไม่มีเวลาให้เขา! แต่อย่าไปโกรธเขาหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่เขาส่งข้อความหาคุณในคืนวันเสาร์ เขาอาจจะถูกสปอยล์จากสาวที่ไม่เชื่อในกฎเหล็กคนอื่นๆที่มักจะส่งข้อความหาเขาไม่มีหยุดแม้แต่ในวันเสาร์อาทิตย์—แต่คุณไม่ใช่เธอ! ไม่จำเป็นต้องส่งข้อความไปสั่งสอนเขาว่า “ทำไมส่งข้อความมาวันเสาร์คะ หากอยากชวนฉันไปออกเดทวันเสาร์ ทำไมไม่ส่งข้อความมาชวนวันพุธ” แทนที่จะทำอย่างนั้น คุณควรจะเงียบหายไปเลยตลอดช่วงสุดสัปดาห์ เพื่อให้เขารู้ว่าหากอยากจะเจอคุณวันเสาร์หรืออาทิตย์ เขาต้องวางแผนล่วงหน้านานกว่านั้น คุณอาจจะส่งข้อความกลับไปคืนวันอาทิตย์ว่า “ขอบคุณที่ชวนนะคะ แต่พอดีฉันมีอย่างอื่นต้องทำเต็มไปหมดเลย” กฏนี้จะมีข้อยกเว้นก็ต่อเมื่อเขาส่งข้อความมาชวนคุณออกเดทตั้งแต่วันพุธแล้ว แต่ส่งข้อความมาย้ำอีกทีเช้าวันเสาร์ หากอย่างนี้ไม่เป็นไร แต่หากไม่ใช่ล่ะก็ ไม่ต้องส่งอะไรกลับไปทั้งนั้น
            ทุกอย่างมีข้อยกเว้น: เช่นหากเขาต้องการคำตอบเร่งด่วนเพื่อจะจองบัตรคอนเสิร์ต หรือจองอะไรสักอย่างที่ต้องให้คุณคอนเฟิร์มเวลาที่เหมาะสม คุณสามารถส่งข้อความตอบกลับไปหาเขาได้ทันที แต่ให้เขียนแค่ว่า “สองทุ่มวันที่ 14 ก็สะดวกค่ะ!” แต่อย่าใช้ช่องโหว่นี้แหกกฎด้วยการต่อความยาวสาวความยืดหรือส่งข้อความกลับไปกลับมาหาเขาโดยไม่จำเป็น
            ผู้หญิงส่วนมาก โดยเฉพาะคนที่ไม่รู้เรื่องกลยุทธ์การออกเดท จะส่งข้อความกลับหาผู้ชายภายในไม่กี่วินาที ดังนั้นเราจึงต้องทำตารางเวลาขึ้นมาเพื่อให้ผู้หญิงทุกช่วงอายุเข้าใจชัดเจนเรื่องเวลาการส่งข้อความกลับ อีกอย่าง อย่าส่งรายละเอียดอะไรมากมายเกี่ยวกับตัวเองให้ผู้ชายคนนั้นรู้  เช่นหากผู้ชายคนหนึ่งส่งข้อความมาว่า “เฮ้ ผมสตีเว่นที่เจอกันเมื่อคืนนะ เป็นไงบ้างครับ” ผู้หญิงบางคนจะตอบกลับในสองวินาทีว่า “ดีใจที่คุณส่งข้อความมานะคะ! ตอนนี้ฉันพักกลางวันพอดี ก็เลยว่าจะไปห้องสมุดสักหน่อย ไปหาหนังสือจิตวิทยาที่เพื่อนฉันเล่าให้ฟังน่ะค่ะ ตลกมากเลย แถมรถฉันยังเข้าอู่ด้วย วันนี้ฉันเลยต้องเดินไปมาทั้งวันเลย แล้วคุณล่ะคะ เป็นยังไงบ้าง” ผู้หญิงพวกนี้แหละที่สปอยล์ผู้ชาย จำไว้ว่าเขาเพิ่งส่งข้อความหาคุณครั้งแรกนะ และเขาก็ถามแค่ว่าคุณเป็นไงบ้าง เขาไม่ได้อยากรู้ประวัติชีวิตคุณสักหน่อย หากคุณรอสักสี่ชั่วโมงแล้วค่อยตอบกลับไปแบบสั้นๆมันจะได้ผลกว่า อย่าสละเวลาอันมีค่าในห้องแลป หรือคลาสโยคะ หรือการประชุมใหญ่เพื่อจะส่งข้อความหาเขา โทรศัพท์รอได้! เขารอได้! คุณรู้สึกว่าต้องส่งข้อความกลับไปหาเขาเดี๋ยวนั้นเหรอ ทำไมล่ะ หากคุณช้าจะมีสาวคนอื่นส่งข้อความตัดหน้าคุณและได้ใจเขาไปงั้นหรือ ไม่เลย ในทางกลับกัน ผู้ชายจะคิดว่าคุณคงยุ่งอยู่หรือไม่ก็อาจจะคุยกับผู้ชายคนอื่นอยู่—ซึ่งนั่นเป็นเรื่องดีสำหรับคุณนะ
            คุณต้องรู้ว่า สำหรับผู้ชายแล้ว การส่งข้อความไม่ใช่เรื่องใหญ่โลกแตกเหมือนผู้หญิงเราๆคิดกัน เขาอาจจะส่งข้อความหาคุณตอนกำลังเติมน้ำมันรถอยู่ก็ได้ สำหรับผู้ชายการส่งข้อความก็ไม่ต่างกับการเล่นกีฬาหรือเล่นวิดีโอเกม แต่สำหรับผู้หญิง การได้รับข้อความจากหนุ่มที่หมายปองไม่ต่างอะไรกับการถูก ลอตเตอรี ท่ามกลางข้อความมากมายของเพื่อนฝูง พ่อแม่ พี่น้อง และเพื่อนร่วมงาน ข้อความหนึ่งเดียวที่เธอจะคิดถึงอยู่ตลอดก็คือข้อความของชายที่เธอปลื้ม
            ก่อนที่หญิงสาวทั้งหลายจะได้อ่านหนังสือของเรา พวกเธออาจจะส่งข้อความกลับไปหาผู้ชายคนนั้นภายในสองนาที และใช้เวลาทั้งชั่วโมงส่งข้อ

https://www.bangkokmatching.com/th/blog/read-free---dating-guidebook-for-social-media-era-for-single-ladies-must-read

Comments

Popular posts from this blog

บริการจัดหาคู่ การ้นตีการได้คู่ไหม หากสมัครใช้บริการจัดหาคู่ บริษัทจัดหาคู่แต่งงาน Bangkok Matching

หาคู่แต่งงานคนไทยและต่างชาติ เจ้าของกิจการสวยโสด 74201

“ต้องการหาคู่รักต่างชาติ หาคู่ฝรั่งฐานะดี รวย จริงใจ พูดไทยได้ มีไหม หาที่ไหน ยังไง?”