หาคู่ บริษัทจัดหาคู่ "คนโสดที่ไม่อยากโสด ทำไงให้ไม่โสดในเมืองกรุงที่นักวิจัย เขาบอกว่า อุดมไปด้วยคน อ้วน โสด จน?
"คนโสดที่ไม่อยากโสด ทำไงให้ไม่โสดในเมืองกรุงที่เขาว่าอุดมไปด้วยคนอ้วน โสด จน?"
บริษัทจัดหาคู่ Bangkok Matching ได้รับการติดต่อจากคนโสดจำนวนมากต่อวันค่ะ มีทั้งคนโสดฐานะดี ฐานะกลางๆ และฐานะไม่ดีติดต่อเข้ามาสอบถามบริการจัดหาคู่คนโสดโปรไฟล์ดี ของ Bangkok Matching ทำให้ได้พบว่า จากบทความข้างล่าง เป็นเรื่องจริงตามนั้นเลยค่ะ บริษัทจัดหาคู่ Bangkok Matching ต้องการเป็นอีกหน่วยงาน ที่ช่วยให้คนโสดทราบปัญหาและมีทางออกนะคะ
ดู Youtube Clip ของ Bangkok Matching ได้เลยค่ะ
ความเจ็บปวดของคนกรุงเทพ #เพราะเป็นคนกรุงเทพจึงเจ็บปวด
Reianthong Vongsangkam 19 มกราคม เวลา 18.14 น.
ภายใต้อาคารสวยงาม เสื้อผ้าที่ดูดี ภาพแห่งความสุขของคนกรุง เมืองหลวงที่เมืองไทยลงทุนไปกับมัน คนกรุงเทพอย่างเรามีเรื่องอะไรให้เจ็บปวดบ้าง...
1) รถติด
- เราเป็นคนที่อยู่ในรถได้วันล่ะ 3-4 ชม. ทั้งกิน นอน และทำงาน เหลือแค่ตายแล้วล่ะที่เรายังไม่ได้ทำ
-“ความน่ากลัวของมนุษย์คือปัญหาที่ควบคุมไม่ได้” ใช่ครับ ปัญหารถติดคือเรื่องที่เราทำอะไรกับมันไม่ได้เลย มีใครจัดการกับมันอยู่มั้ย จะขอความช่วยเหลือจากใครหรือจะแก้ปัญหานี้ยังไง แต่ละวันเราปล่อยให้เรื่องรถติดเป็นตามยถากรรม เอาจริงนะ วันไหนที่ผมไม่เจอรถติดวันนั้นผมก็มีความสุขแล้ว
- วันจันทร์ตอนเช้าและวันศุกร์ตอนเย็นเป็นวันที่พวกเราชอบเอารถมาจอดบนถนน
- มีงานวิจัยบอกว่า การขับรถแบบปาดซ้ายปาดขวาช่วยให้เร็วขึ้นได้จริง แต่ไม่คุ้มกับสุขภาพจิตที่เสียไป
- ก่อนที่จะเร่งเครื่องให้เตือนตัวเองเสมอว่าความเร็วที่เพิ่มขึ้นจาก 40 เป็น 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง จะเพิ่มโอกาสเสียชีวิตให้คนที่โดนรถชนจาก 5% เป็น 85% ในขณะที่ช่วยให้เร็วขึ้น 1 นาทีครึ่ง
2) ที่อยู่
- การมีบ้านในฝันเป็นเรื่องที่ห่างไกล เพราะส่วนใหญ่เราเลือกจากทำเล ไม่ใช่ลักษณะของบ้าน
- เราใช้เงินในการขยายพื้นที่ส่วนตัว เพราะพื้นที่สาธารณะของเรามีน้อยเหลือเกิน
- การมีถนนใหญ่และรถไฟฟ้าตัดผ่านไม่ได้ดีเสมอไป เพราะมันหมายความว่า “ความเป็นชุมชน” ของคุณได้หายไปแล้ว
- วัยรุ่นอย่างเรากำลังเสียเงินผ่อนคอนโดฯที่ที่ดินไม่ใช่ของเราและอนาคตกำลังโดนน้ำท่วม
- ตอนกลางคืนตามตรอกซอกซอยและย่านชุมชนจะเหมือนหนังเรื่อง Sin City ซึ่งอะไรก็เกิดขึ้นได้กับคุณ
- เราอยู่ในเมืองที่อาบ อบ นวด ลดภาษีได้ แต่หนังสือลดไม่ได้
- อาบ อบ นวด มีพอๆ กับวัด ซึ่งบางทีฟังก์ชั่่นก็สลับกัน
3) ไลฟ์สไตล์
- การงาน, การเงิน, สุขภาพ, ครอบครัว และเพื่อน คือห้าเรื่องหลักที่ทำได้แค่สามเรื่องก็เก่งแล้ว
-กาแฟคือดัชนีชี้วัดการทำงานหนักของพวกเราได้เป็นอย่างดี
- เราถูกโฆษณาครอบงำตลอดเวลา และเราก็จะเสียเงินไปกับสิ่งของที่เราแทบไม่ได้ใช้มัน
- คนที่ไม่สนิทเราจะคุยเรื่องความสุข แต่คนที่สนิทเราจะคุยเรื่องความทุกข์
- เราใช้มือถือในการนัดเจอกันเพื่อจะมานั่งเล่นมือถือด้วยกัน
- เดี๋ยวนี้การเห็นนมผู้หญิงง่ายกว่าการหาข้าวกินแล้ว
- เราไม่ชอบสังคมอุปถัมภ์ รับน้อง งานบวช และงานแต่ง อย่าลืมใส่ซองนะ
- เราเงินเดือนไม่เยอะหรอก แต่บางทีเราก็ยินดีซื้อมือถือที่แพงกว่าเงินเดือน
- เราชอบการบริจาคและวาดฝันถึงสังคมในอุดมคติ มากกว่าการลงมือแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง นั้นจริงๆ
- ส่วนใหญ่เรามีชีวิตอยู่เพื่อวันพรุ่งนี้ไม่ใช่วันนี้
4) สุขภาพ
- ความจริงเราไม่ได้รักสุขภาพอะไรนักหรอก เราแค่ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลเท่านั้นเอง
- มะเร็ง คือโรคยอดนิยมของพวกเรา สาเหตุหลักเพราะอาหารที่เรากินไม่มีคุณภาพและหลากหลายพอ ซึ่งเกิดจากการผูกขาดของบริษัทอาหารอีกที
- ผอมไม่ได้แปลว่าสุขภาพดี แต่มื้อนี้ขออดข้าวหน่อยนะ
5) การท่องเที่ยว
- “ถ่ายรูปสวยมั้ย” คือเหตุผลหลักๆ ที่เราจะเที่ยวสักที่ แม้ว่าสถานที่นั้นจะกลวงเปล่าแค่ไหนก็ตาม
-“การโพสท่า 101” คือหลักสูตรที่ควรจะบรรจุในระบบการศึกษา
- เราไปเที่ยวต่างประเทศมากมาย ว่าแต่คนข้างบ้านเราชื่ออะไรนะ
- ไม่รู้เป็นเรื่องดีหรือร้าย เวลาหยุดยาวทีไรเราไม่มี“บ้าน”ให้กลับไป
6) สภาพ
- ถ้า “โง่ จน เจ็บ” คือวาทกรรมสำหรับคนต่างจังหวัด “จน อ้วน โสด” ก็คือวาทกรรมสำหรับคนเมือง
- กรุงเทพคือเมืองสำหรับคนหนุ่มสาว ไม่ใช่สำหรับเด็ก คนแก่ และคนพิการ
- ฐานะของคนใช้บริการสาธารณะและจำนวนขอทาน คือตัวชี้วัดที่ดีในการมองคุณภาพของเมือง
7) อื่นๆ
- เราชอบยิ้ม แต่ตีความหมายยิ้มของเราดีๆนะ
- ความเหลื่อมล้ำคือเรื่องที่สำคัญพอๆกับรถติดแต่น่ากลัวกว่าตรงที่เราไม่เห็นมัน
- กฎหมายไทยคือเรื่องที่เราควรทำความเข้าใจแต่เราไม่มีวันเข้าใจ เพราะบทบัญญัติกับการปฏิบัติจริงมันคนละเรื่อง
- ผู้ว่าของเราจะโผล่มาสองช่วง คือ ช่วงหาเสียงและน้ำท่วม
ทีนี้ ลองมาดู “เรื่องจริงๆ” จากงานวิจัย ประกบกันเข้าไปสัก 1 เรื่อง จะพบว่า ความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องวางแผน วางยุทธศาสตร์ วางนโยบาย คงไม่ใช่เรื่อง “ความปรองดอง” ที่ยาก
จะข่มขืนหัวใจให้คนไม่ชอบพอกันมากอดคอกันหรอก แต่ต้องทำให้ชีวิตของคนทุกเหล่า ทุกสี มี “คุณภาพชีวิตที่ดี” โดยระบบที่เป็นธรรมจาก “รัฐ” ลองดูผลวิจัยเรื่องนี้สักหน่อยสิครับ
ณัฐนันท์ วิจิตรอักษร นักวิชาการสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) แถลงผลการศึกษา “การประมาณค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของการสร้างเสริมสุขภาพ” ว่าจากการศึกษาข้อมูลด้านสุขภาพคนไทย ในช่วง 15 ปี ข้างหน้าสุขภาพคนไทยจะเป็นอย่างไร โดยนำข้อมูลสุขภาพของทั้ง 3 กองทุน ประกอบด้วย สวัสดิการข้าราชการ,ประกันสังคมและสำนักงานกองทุนหลักประกันสุขภาพ เปรียบเทียบและวิเคราะห์ ตั้งแต่ปี 2545-2560 พบว่าสัดส่วนของค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในปี 2545 อยู่ที่ 9.32% ในปี 2550 อยู่ที่ 13% คาดว่าในอนาคตจะยิ่งสูงเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสัดส่วนของประชากรผู้สูงอายุ เพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มวัยเพราะประชากรไทย ได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
ทั้งนี้ จากการประเมินสัดส่วนของอัตรารายได้กับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพจะพบว่าหากมีรายได้เพิ่มขึ้น 1 เท่า อัตราค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพก็จะเพิ่มขึ้น 1 เท่าเช่นกัน และคาดว่าในอีก 15 ปี ข้างหน้า ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของคนไทยจะอยู่ที่ 1.4 ล้านล้านบาท หากรัฐไม่ควบคุมค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ เช่น การส่งเสริมและป้องกันโรค ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อการรักษาโรคเพื่อลดต้นทุนการรักษา เป็นต้นบวกกับหากเข้าสู่สังคมสูงวัย จะทำให้ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพสูงถึง 1.825 ล้านล้านบาท แต่หากรัฐควบคุมค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ราว 1.319 ล้านล้านบาท และยังพบว่า ในสัดส่วนของค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ ยังมีบางส่วนอยู่ในหมวดสินค้าฟุ่มเฟือยหรือไม่จำเป็น เช่น วิตามิน หรืออาหารเสริมด้านความงาม โดยปัจจัยภาระค่าใช้จ่ายส่วนนี้ เป็นเรื่องของกำลังทรัพย์
นายณัฐนันท์ กล่าวว่าจากการศึกษา พบว่า สัดส่วนของค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเพิ่มขึ้นยังคงหนีไม่พ้น 5 กลุ่มโรค โรคอ้วน,โรคความดันโลหิตสูง,โรคโลหิตจาง,โรคข้ออักเสบ, โรคเบาหวาน ทั้งนี้แนวทางในการแก้ไข สำหรับค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้นในสังคมผู้สูงอายุ ภาครัฐต้องเร่งหานโยบาย แนวทางรองรับประชากรผู้สูงอายุอย่างจริงจัง เน้นการส่งเสริมป้องกันโรค เพราะ 5 โรคที่พบเป็นกลุ่มโรคเรื้อรังที่สามารถป้องกันและแก้ไขได้ ด้วยการปรับพฤติกรรม การรับประทานอาหาร และการออกกำลังกาย “จะเห็นว่าค่ารักษาพยาบาลเป็นสินค้าจำเป็นของกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและผู้มีรายได้สูง ขณะที่ผู้มีรายได้ปานกลางจะเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย อาจเพราะกลุ่มคนนี้มีตัวเลือกในการใช้บริการในเรื่องนี้เพิ่มขึ้น เช่นซื้อวิตามินต่างๆมากินมากขึ้น เป็นต้น แต่ไม่ได้แปลว่ากลุ่มคนมีรายได้สูงจะไม่ซื้อมากิน อาจจะซื้อมากินเช่นกันแต่ไม่ได้กระทบกับรายได้ของเขา สำหรับคนรายได้สูง จึงยังถือเป็นสินค้าจำเป็นได้”นายณัฐนันท์กล่าว
นอกจากนี้ เมื่อดูเรื่องภาวะการเจ็บป่วยกับสถานการณ์สังคมสูงวัยของไทย พบว่า คนไทยจะเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังมากขึ้น เช่น โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน โรคระบบทางเดินหายใจและโรคอื่นๆ ส่วนใหญ่เป็นโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เรื้อรังมานาน โดยปี 2551 ค่ารักษาพยาบาลใน 5 โรคนี้มีมูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาท หากคนไทยป่วย 5 โรคนี้อยู่ที่ 18.25 ล้านคนต่อปี ที่เข้ารับบริการที่สถานพยาบาล อยู่ที่ประมาณ 3.35 แสนล้านบาทต่อปี
นายณัฐนันท์กล่าวว่า โดยสรุปการเข้าสู่สังคมสูงวัยของไทย ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ไทยหรือประชากรจะมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย และภาวะการเจ็บป่วยจากโรค ไม่ติดต่อเรื้อรังยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพโดยรวมของประเทศ ดังนั้น รัฐบาลควรมีนโยบายและมาตรการที่ชัดเจนเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลผู้สูงอายุ รวมถึง ควรกำหนดมาตรการป้องกันและแผนการควบคุมโรคโดยเฉพาะโรคในกลุ่มไม่ติดต่อเรื้อรัง เนื่องจากโรคเหล่านี้ ส่วนใหญ่มีสาเหตุจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันซึ่งสามารถป้องกันได้
ทั้งเรื่องทีเล่นทีจริง และเรื่องจริงๆ ที่เอามาบอกเล่ากันนี้คืออะไร
คือการตั้งคำถามว่า ที่ผ่านมา มัวแต่สาละวนอยู่กับ “การเมือง” กัน ลืมสร้าง “คุณภาพชีวิต” กันนานแค่ไหน
สังคมสูงอายุ มาจ่อคอหอยอยู่รำไร ทั้งประชาชน พรรคการเมืองที่กำลังเตรียมกาเลือกตั้ง และรัฐบาลปัจจุบัน ได้คิดอะไร เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้บ้างไหมครับ?
‘เมืองทำให้เรา จน อ้วน โสด’
ดร.นิรมล กุลศรีสมบัติ หัวหน้าโครงการเมืองเดินได้ เมืองเดินดี (Good Walk) ศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UddC) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยกล่าวไว้ว่า เมืองทำให้เรา จน อ้วน โสด
หากคลี่ข้อมูลในแต่ละประเด็นจะพบว่า
จน: ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2555 ระบุว่าคนกรุงเทพฯ มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางประมาณ 20% ของรายได้ทั้งหมด
อ้วน: ผังเมืองเอื้อให้เราไม่อยากเดิน ขยับร่างกาย หรือแม้แต่ขี่จักรยานไปทำงาน เพราะมีสวนสาธารณะที่ห่างไกลและไม่เพียงพอ และการเดินทางในแต่ละวันยังยาวนานจนหลายคนกลับบ้านแล้วไม่อยากลุก
โสด: ในเมืองไม่มีกิจกรรมอะไรให้ทำนอกจากเดินห้างฯ หรือคาเฟ่ แถมร้านที่ว่าต้องใช้ความพยายามฝ่ารถติดเข้าไปในเมือง ด้วยการจราจรคึกคักแบบนี้ หลายคนขอนอนนิ่งๆ อยู่บ้านชาร์ตพลัง (เพื่อออกไปรบกับสนามจราจร) ในวันพรุ่งนี้จะดีกว่า
นอกจากนี้ ข้อมูลจาก WHO ซึ่งเผยแพร่ในเดือน พ.ค. 2561 ระบุว่า 9 ใน 10 ของประชากรโลก หรือกว่า 7 ล้านคนต่อ/ปี ตายเพราะมลพิษทางอากาศ โดย 88% ของผู้เสียชีวิตอยู่ในประเทศที่มีรายได้ปานกลางถึงน้อย และมีการกระจุกตัวอยู่ในแปซิฟิคตะวันตกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ขณะที่รายงานจากนักวิจัยและคณะกรรมการจาก The Lancet วารสารทางการแพทย์ เผยแพร่เมื่อเดือนต.ค. 2560 ระบุว่า มีประชากร 9 ล้านคน/ปี ที่เสียชีวิตจากมลพิษทางสิ่งแวดล้อม นับเป็นตัวเลขที่มากกว่าการตายจากสงคราม อุบัติเหตุบนท้องถนน และการขาดสารอาหารรวมกัน
ด้วยจิ๊กซอว์ทั้งหมด ต่อไปที่เห็นต้นไม้ถูกตัดอย่าง “เอาไม้บรรทัดทาบ” เราคงไม่อาจอยู่เฉย แค่หงุดหงิด หรือเสียใจเพียงเพราะทัศนียภาพเป็นพิษได้
แต่ทุกกิจกรรมหรือนโยบายเกี่ยวกับการบริหารต้นไม้ในเมือง จะผูกร้อยเชื่อมกันตั้งแต่ปัญหาสุขภาพ สิ่งแวดล้อม รวมถึงการทำเมืองให้ “เฮลตี้” รองรับประชากรที่เคลื่อนเข้ามาใช้ชีวิตในเมืองที่มีแต่จะเพิ่มขึ้นทุกทีๆ ด้วย
คนเมืองกำลังจะอ้วนขึ้นและอ้วนขึ้น
และสิ่งที่อาจจะทำให้คุณรู้สึกแย่มากกว่าแค่รู้สึกเหงาคือ พวกเราชาวกรุงนั้นยังเสี่ยงต่อภาวะอ้วนอีกด้วย จากการศึกษาของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. พบว่า ภาวะโรคอ้วนในประเทศไทยมีแนวโน้มจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต จากผลการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายในปี 2552 พบคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปมากกว่า 1 ใน 3 อยู่ในภาวะน้ำหนักเกินและอ้วนเพิ่มขึ้นสองเท่าตัว เมื่อเทียบกับในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา และหากเปรียบเทียบในระดับภูมิภาคพบว่า คนไทยอ้วนสูงสุดเป็นอันดับ 2 จากทั้งหมด 10 ประเทศอาเซียน รองจากมาเลเซียเท่านั้น
และด้วยเพราะว่า คนกรุงเทพฯ เฉลี่ยแล้วมีพื้นที่สีเขียวเพียง 6.18 ตร.ม.ต่อคนเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกแนะนำที่ 9 ตร.ม.ต่อคน หากหันไปมองเพื่อนบ้านอย่างประเทศสิงคโปร์ ประชากรเขามีพื้นที่สีเขียวเฉลี่ยคนละ 66 ตร.ม. เชียวนะ! ดังนั้นทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ แน่นอนว่า เหล่าชาวเมืองจำนวนมากเลือกทำกิจกรรมและใช้เวลาอยู่ในห้างสรรพสินค้าที่มีอยู่ทั่วทุกมุมเมือง ทั้งกินข้าว ช้อปปิ้ง ดูหนัง หรือแม้แต่ตากแอร์ในวันที่อากาศร้อนๆ แต่สิ่งที่ขาดไปสำหรับคนกรุงคือ พื้นที่สาธารณะ เพื่อให้ผู้คนได้ออกไปชีวิตนอกอาคาร นอกบ้าน เพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน
https://gfms.gistda.or.th/node/53
https://www.naewna.com/politic/columnist/33808
บริษัทจัดหาคู่พรีเมี่ยม Bangkok Matching เผยการใช้บริการจัดหาคู่เพิ่มขึ้น 300% ช่วง Covid-19 ระบาด
https://www.marketthink.co/9667
บริษัทจัดหาคู่พรีเมี่ยม แบงคอก แมทชิ่ง เผยสถิติการหาคู่ของคนโสดพุ่งรับโควิด-19
https://forbesthailand.com/news/other/%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%81-%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87-%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81.html
กักตัวมันเหงา! COVID-19 ดันยอดบริการจัดหาคู่ ของ บริษัทจัดหาคู่ ในไทยติดต่อเพิ่ม 300% “คนโสดโปรไฟล์ดี” มากสุด
https://positioningmag.com/1276102
https://prthailand.net/31822/
ยิ่งล็อกดาวน์ ยิ่งเปลี่ยว…. พิษโควิด-19 ทำอะไรบริการหาคู่ออนไลน์ไม่ได้ เผยสถิติครึ่งปีแรกการหาคู่ของคนโสดพุ่ง
https://www.brandbuffet.in.th/2020/09/bangkok-matching-servey-online-dating-during-covid/
COVID-19 ทำให้คนเห็นความ “ไม่แน่นอนในชีวิต” ดันบริการหาคู่ยังโต แม้คลายล็อกดาวน์แล้ว
https://positioningmag.com/1295674
บริการจัดหาคู่ การันตีการได้คู่ไหม หากสมัครใช้บริการจัดหาคู่ บริษัทจัดหาคู่แต่งงาน คนโสดโปรไฟล์ดี Bangkok Matching
https://thaidatingcoach.blogspot.com/2019/11/www.bangkokmatching.com.html
คุยเรื่องคนโสดกับ Bangkok Matching: ธุรกิจจัดหาคู่ไปได้ดี ในยุคคนโสดไม่มีโอกาสหาแฟน
https://brandinside.asia/match-making-company-bangkok-matching/
สถิติการหาคู่ – ในช่วง โควิด-19 แบบนี้ คนโสดยังหาคู่กันอยู่หรือเปล่า? บริษัทจัดหาคู่ Bangkok Matching มีคำตอบให้ค่ะ
https://ichiangmaipr.com/2020/05/%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88-%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87-%E0%B9%82%E0%B8%84/
ติดตามแม่สื่อบริษัทจัดหาคู่ Bangkok Matching เพื่อรับข่าวสารเรื่องการหาคู่ ทั้งหาคู่คนไทย หาคู่ต่างชาติโปรไฟล์ดี ได้ตาม social media นี้ค่ะ
Facebook ภาษาไทย: https://www.facebook.com/bangkokmatching.fanpage/
Facebook ภาษาอังกฤษ English: https://www.facebook.com/pages/category/Dating-Service/Dating-Thai-Ladies-Dating-in-Thailand-Bangkok-Matching-Matchmaking-Agency-653619478163768/
Twitter: https://twitter.com/BangkokMatching
Instagram: https://www.instagram.com/bangkokmatching
Bangkok Matching Youtube Channel: https://www.youtube.com/channel/UC5EbBMpGCiOwAZE4R7GLZ_Q
Pinterest: https://www.pinterest.com/bangkokmatching
Bangkok Matching Youtube Channel ภาษาอังกฤษ English Dating Tips
https://www.youtube.com/playlist?list=PLU9r2Rq8t7oXRwWuzJRt7wt1axbQIwfWt
Bangkok Matching Youtube Channel ภาษาไทย เทคนิค การหาคู่ ออกเดท สำหรับคนหาคู่คนไทย
https://www.youtube.com/playlist?list=PLU9r2Rq8t7oWvw5hbgWR78nVnMhdHwtCU
Bangkok Matching Youtube Channel ภาษาไทย เทคนิค การหาคู่ ออกเดท สำหรับคนหาคู่ต่างชาติ
https://www.youtube.com/playlist?list=PLU9r2Rq8t7oU1PYbBo_qlruL75IcUdAZi
ราคา ค่าบริการจัดหาคู่ ของบริษัทจัดหาคู่ พรีเมี่ยม Bangkok Matching
https://youtu.be/-2IiDpVT-jE
ราคา ค่าบริการ บริษัทจัดหาคู่ Bangkok Matching ราคาสูง ไม่สูง ขึ้นกับอะไร สเปคยังไงสูง ยังไงถูก
https://youtu.be/jtGe52PwhSY
บอร์ดประกาศหาคู่ ชายโสด หญิงโสดหาคู่ของบริษัทจัดหาคู่ Bangkok Matching
https://www.bangkokmatching.com/th/featured-dating-clients
ประเภทบริการจัดหาคู่ กลุ่มที่ให้บริการ
https://www.bangkokmatching.com/th/dating-services
ขั้นตอน การสมัครใช้บริการจัดหาคู่ ขอบริษัทจัดหาคู่พรีเมี่ยม Bangkok Matching เป็นอย่างไร และคุณสมบัติของผู้สมัคร
https://youtu.be/79ktcbgQRSU
Comments
Post a Comment